วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

คลอโรฟิลล์ฟีเวอร์ แล้วคุณหล่ะ รู้จักคลอโรฟิลล์แล้วหรือยังค่ะ !

คลอโรฟิลล์ฟีเวอร์ แล้วคุณหล่ะ รู้จักคลอโรฟิลล์แล้วหรือยังค่ะ !


คุณประโยชน์หลักของคลอโรฟิลล์ คือ รักษาสมดุล บำรุงรักษา เพิ่มปริมาณออกซิเจน และเม็ดเลือดแดง ช่วยเสริมบำรุงสุขภาพของเราได้ดีขึ้น

คลอโรฟิลล์ (Chlorophyll)
คลอโรฟิลล์ เป็นสารมีสี (Pigment) ที่พบได้ในพืชที่มีสีเขียว ซึ่งพืชเหล่านี้ใช้คลอโรฟิลล์ในการสังเคราะห์แสง (Photosynthesis) โครงสร้างของคลอโรฟิลล์นั้นคล้ายคลึงกับสารประกอบหลักและสำคัญในเม็ดเลือดแดงที่เรียกว่าฮีม (Heme) มีงานศึกษาวิจัยสรุปออกมาว่า เมื่อร่างกายได้รับคลอโรฟิลล์เข้าไป บางส่วนของคลอโรฟิลล์จะถูกเปลี่ยนไปเป็นฮีม (Heme) ทำให้ร่างกายมีปริมาณเม็ดเลือดที่ถูกสร้างขึ้นใหม่เพิ่มมากขึ้น และในคลอโรฟิลล์ยังมีแร่ธาตุต่างๆ อีกมากมายที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของคนเรา
ด้วยสูตรโครงสร้างของโมเลกุลที่ใกล้เคียงกับโมเลกุลของเม็ดเลือดแดง ต่างกันเฉพาะตรงกลางที่คลอโรฟิลล์มีแมกนีเซียม (Mg) และเม็ดเลือดแดงมีเหล็ก (Fe) จึงทำให้สีของต่างกัน คือ คลอโรฟิลล์มีสีเขียว แต่เม็ดเลือดมีสีแดง จากจุดนี้เองที่ทำให้คลอโรฟิลล์เปรียบได้กับโลหิตของพืช จากการที่คลอโรฟิลล์มีโครงสร้างที่เหมือนกับเม็ดเลือดแดง จึงมีหน้าที่ที่สามารถจับออกซิเจนที่เราหายใจเข้าไป เพื่อเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายได้มากขึ้น คลอโรฟิลล์ เปรียบได้กับโลหิตของพืช ซึ่งมีแร่ธาตุตามธรรมชาติมากมายที่ประกอบไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) วิตามิน โปรตีน และสารอาหารต่างๆ ที่มีความจำเป็นต่อร่างกายของคนเรา นอกจากนี้ยังช่วยปรับความเป็นกรดเป็นด่างในร่างกายของเราได้ด้วย
คลอโรฟิลล์ เปรียบได้กับโลหิตของพืชซึ่งมีแร่ธาตุตามธรรมชาติมากมายที่ประกอบไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) วิตามิน โปรตีน และสารอาหารต่างๆ ที่มีความจำเป็นต่อร่างกายของคนเรา นอกจากนี้ยังช่วยปรับความเป็นกรดเป็นด่างในร่างกายของเราได้ด้วย คนเราควรบริโภคคลอโรฟิลล์ เพื่อมาเสริมการสร้างฮีโมโกบิลในเม็ดเลือดจากฮีมที่ถูกเปลี่ยนมาจากคลอโรฟิลล์ที่เรารับเข้าสู่ร่างกาย ดังคำกล่าวที่ว่า �เลือดพืชมีสีเขียว เลือดมนุษย์มีสีแดง มนุษย์จะมีสุขภาพที่ดีได้เลือดจะต้องไม่มีพิษ จงล้างพิษด้วยพืชสีเขียว�
คลอโรฟิลล์ธรรมชาติมีหลายชนิด บางชนิดสังเคราะห์แสงได้ในที่ที่มีแสงแดดเท่านั้น แต่บางชนิดสังเคราะห์แสงได้แม้ในที่ไม่มีแสง เช่น ในร่างกายของคน จึงมีการค้นคว้าเกี่ยวกับการทำงาน หรือปฏิกิริยาของคลอโรฟิลล์ต่อคน พบว่า คลอโรฟิลล์ที่อยู่ในเซลล์ของพืชทั่วไปจะถูกปกป้อง และปิดกั้นด้วยผนังหรือเยื่อหุ้มเซลล์อีกทีหนึ่ง ทำให้ระบบย่อยอาหารปกติของร่างกายเราไม่สามารถบดย่อย เพื่อให้ได้สารคลอโรฟิลล์เพียงพอกับความต้องการของร่างกายได้ ถึงแม้ว่าเราจะบริโภคผักใบเขียว เป็นจำนวนมากอย่างไรในแต่ละวันก็ตาม อีกทั้งคลอโรฟิลล์โดยตัวมันเองละลายน้ำไม่ได้ จะละลายได้ในไขมัน หรือในบางรูปของแอลกอฮอล์เท่านั้น แต่ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน เราสามารถสกัดเอาเฉพาะสารคลอโรฟิลล์ออกมาได้อย่างสมบูรณ์และบริสุทธิ์ โดยปราศจากการสูญเสียคุณค่าทางอาหารตามธรรมชาติ ร่างกายจึงสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ทันทีอย่างเต็มที่ และเป็นคลอโรฟิลล์ชนิดละลายน้ำได้ จึงดูดซึมได้ทันทีในกระเพาะอาหาร ในกรณีที่ร่างกายใช้ไม่หมดจะถูกขับทิ้งไปทางระบบขับถ่าย ไม่สะสมไว้ในร่างกาย

ทำไมต้องเป็นคลอโรฟิลล์จากต้นอัลฟาฟ่า ???
จากงานวิจัย พบว่าคลอโรฟิลล์ที่ได้จากต้นอัลฟัลฟ่า จะบริสุทธิ์และดีที่สุด เพราะมีระบบรากที่อยู่ในพื้นดินได้ลึกกว่า 130 ฟุต ดังนั้นจึงสามารถดูดซึมอาหารได้มากกว่า และมีความบริสุทธิ์มากกว่าพืชชนิดอื่น โดยไม่มีการสะสมสารพิษไว้ในตัวมันเอง ซึ่งในการสกัดคลอโรฟิลล์บริสุทธิ์นั้น เราจะนำเอาต้นอัลฟัลฟ่ามาสกัด จนได้คลอโรฟิลล์ในรูปแบบผง อีกทั้ง อัลฟาฟ่า เป็นพืชที่ให้กรดอะมิโนจำเป็น ครบทั้ง 8 ชนิด ซึ่งได้แก่ กรดอะมิโนไอโซลิวซีน ลิวซีน ไลซีน เมไธโอนีน พีนิลอะลานีน เทรโอนีน ทริปโตฟาน และวาลีน และพบว่ากรดอะมิโนเหล่านี้ร่างกายของเราไม่สามารถสร้างเองได้ แต่จำเป็นต้องมีไว้ เพื่อใช้ประโยชน์ในการสร้างเนื้อเยื่อต่างๆ ทำให้สารสกัดจากต้นอัลฟาฟ่ายังอุดมไปด้วยวิตามินเอ บี6 ดี อี เค เกลือแร่ฟอสฟอรัส โปแตสเซียม และแคลเซียม ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย

คุณประโยชน์ของคลอโรฟิลล์
คุณประโยชน์หลักของคลอโรฟิลล์คือคุณสมบัติในการชำระล้าง ขจัดสารพิษ และสิ่งสกปรกออกจากร่างกาย รักษาสมดุล บำรุงรักษา คือเพิ่มปริมาณออกซิเจนและเม็ดเลือดแดงช่วยเสริมบำรุงสุขภาพของเราได้ดีขึ้น ดังต่อไปนี้

- ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง ทำให้ภาวะโลหิตจางดีขึ้น ฟอกเลือดให้สะอาด
- ลดปัญหาเส้นเลือดหัวใจตีบตัน ลดปัญหาเส้นเลือดขอด
- ลดอาการภูมิแพ้ ผื่นลมพิษ แพ้อากาศ โรคหอบหืด
- ช่วยลดสิว ฝ้า ลดรอยดำคล้ำรอบดวงตาและใบหน้าหมองคล้ำ ช่วยให้ผิวพรรณสดใส
- ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
- ช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น
- เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันโรคมะเร็ง
- ช่วยลดอาการปวดประจำเดือน ปวดศีรษะ ปวดไมเกรน
- ช่วยแก้ปัญหากระเพาะลำไส้อักเสบ ช่วยสมานแผลเปื่อย
- ช่วยดับกลิ่นตัว กลิ่นปาก กลิ่นเท้า ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย
- รักษาแผลอักเสบ แผลเปื่อย แผลถลอก แผลโดนไฟไหม้ น้ำร้อนลวก
- ลดการเกิดอาการเหงือกอักเสบ หรือแผลร้อนในปาก และเมื่อเกิดขึ้นแล้วทำให้แผลหายเร็วขึ้น
- ปรับสมดุลความเป็นกรด-ด่าง ในผู้ป่วยโรคเกาต์ รูห์มาตอยด์ เบาหวาน ริดสีดวงทวาร และผู้ดื่มสุรา
- ช่วยเพิ่มปริมาณเม็ดเลือดให้กับร่างกาย
- ช่วยขจัดสารพิษในเลือด ตับ ไต
- ช่วยฟื้นฟูการทำงานของตับ
- ปรับสมดุลให้กับร่างกาย เสริมภูมิต้านทานให้กับร่างกาย

โคเอนไซม์ คิวเทน (Coenzyme Q10)
โคเอนไซม์ คิวเทน เป็นสารประกอบที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ที่เหมือนกับวิตามินเค สร้างขึ้นที่ตับและเซลล์อื่น ๆ ทุกเซลล์ของร่างกาย และเป็นปัจจัยที่สำคัญของปฏิกิริยาชีวเคมีของเซลล์ในร่างกาย จึงถูกเรียกว่า เป็นสารมหัศจรรย์ที่เกี่ยวกับปฏิกิริยาการผลิตพลังงานในร่างกาย ช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจน (Oxygen) ให้แก่เซลล์เนื้อเยื่อต่างๆ ในหน่วยการสร้างพลังงานในรูปของ ATP (Adenosine Tri Phosphate) จึงทำให้เซลล์ผิวหนังมีพลังงานมากขึ้น นอกจากนี้ โคเอนไซม์ คิวเทน ยังเป็นที่กล่าวขวัญในหมู่นักวิทยาศาสตร์ชั้นนำ ในแง่ของการป้องกันและรักษาโรคหัวใจ ช่วยชะลอความชราได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ คล้ายวิตามินอี โดยจะป้องกันไม่ให้โมเลกุล ของไขมันถูกทำลายเสียสภาพ จึงช่วยรักษาผนังเซลล์ให้คงสภาพได้ดี

ข้อบ่งใช้คลอโรฟิลล์
1. ไม่ควรละลายในน้ำร้อน เพราะจะทำให้สูญเสียคุณค่าของคลอโรฟิลล์
2. สตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน ควรมีอายุครรภ์ 3 เดือน ขึ้นไป
3. สำหรับผู้ที่มีอาการท้องอืด ท้องเฟ้อง่าย ไม่ควรดื่มคลอโรฟิลล์ระหว่างมื้ออาหารควร รับประทานก่อนหรือหลังอาหาร 1 ชั่วโมง
4. สำหรับผู้ที่เป็นโรคไตควรผสมน้ำไม่เกิน 1 ลิตร
5. กลุ่มผู้ที่มีอาการของโรคเบาหวานควรทานแบบเจือจาง และค่อยลดระดับน้ำ

วิธีรับประทานเพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
ละลายคลอโรฟิลล์ในน้ำเย็น ครั้งละ 1 ช้อนชา ต่อน้ำหนึ่งขวด (750 มิลลิลิตร) สามารถดื่มแทนน้ำได้บ่อยเท่าที่ต้องการ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น